การใช้เถ้าลอย (PFA) ทดแทนปูนซีเมนต์ทำให้ผิวหน้าคอนกรีตทนต่อการขัดสีน้อยลงหรือไม่ และตัวเถ้าลอยเองมีอันตรายต่อร่างกายหรือเปล่า

ตอบ   ตาม ACI 232.2R-03 ข้อกำหนดในการใช้เถ้าลอยในคอนกรีต การใช้เถ้าลอยทดแทนปูนซีเมนต์มิได้ทำให้ผิวคอนกรีตทนต่อการขัดสีน้อยลงแต่อย่างใด หากมีการออกแบบส่วนผสมคอนกรีต การปาดหน้าและบ่มคอนกรีตอย่างถูกต้อง รวมทั้งมีมวลรวมที่ดีมีคุณภาพ ความทนทานต่อการขัดสีของคอนกรีตนั้นแปรผันโดยตรงกับกำลังอัดของคอนกรีต กล่าวคือยิ่งคอนกรีตมีกำลังอัดสูงก็ยิ่งมีความทนทานต่อการขัดสีสูง ตัวอย่างเช่น โดยทั่วไปคอนกรีตสำหรับใช้ในการเทถนน ซึ่งต้องมีการขัดสีมากจากยวดยานพาหนะ ควรมีกำลังอัดอย่างต่ำ 320 กก./ตร.ซม. เพื่อให้มีความสามารถทนต่อการขัดสีอย่างเหมาะสม โดยสรุปแล้วไม่ต้องคำนึงถึงปริมาณของเถ้าลอยในส่วนผสมว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่ควรพิจารณาถึงกำลังอัดของคอนกรีตว่าได้ตามที่กำหนดเอาไว้หรือไม่

 
เถ้าลอยนั้นมีส่วนประกอบที่สำคัญคืออ๊อกไซด์ของทั้งพวกโลหะ เช่น อลูมินั่ม เหล็ก แม็กนีเซียม และของพวกอโลหะ อาทิ ซิลิกอน แคลเซียม ซัลเฟอร์ โซเดียม โปแทสเซียม แต่ทั้งนี้ส่วนประกอบหลักคือ ซิลิกอนไดอ๊อกไซด์ หรือ ที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซิลิก้า (Crystalline Silica or Free Silica) ซึ่งมีทั้งในรูปของ Quartz และ Cristobalite ซึ่งซิลิก้านั้นสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ หากสูดหายใจเข้าไปในปอดเป็นจำนวนมากและเป็นประจำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปี มักเกิดขึ้นได้การทำงานบางอาชีพ เช่น กรรมกรขุดหาแร่ในเหมือง เป็นต้น

โรคที่เกิดจากซิลิก้านี้เรียกว่าซิลิโคซิส (Silicosis) เกิดจากการที่ซิลิก้าซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้าไปฝังตัวในผนังของปอด และทำให้ปอดสร้างพังผืด ที่ภาษาทางการแพทย์เรียกว่า Pulmonary Fibrosis ทำให้มีอาการ ไอ หอบหืด หายใจถี่ เจ็บหน้าอก และอาจถึงตายได้จากการขาดอ๊อกซิเจน
    
    เถ้าลอยที่อยู่ในคอนกรีตนั้นถือว่ามีความปลอดภัยสูง อย่างเลวร้ายที่สุดก็อาจจะหลุดออกจากเนื้อคอนกรีตเพียงที่บริเวณผิวหน้าไม่กี่มิลลิเมตรในกรณีเลือกใช้คอนกรีตกำลังอัดต่ำเกินไปสำหรับการใช้งานและมีการเติมน้ำลงในคอนกรีตที่หน้างาน หรือมีการปาดหน้าหรือการบ่มที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งเถ้าลอยที่หลุดขึ้นมานั้นก็จะหมดไป จากการที่มีในปริมาณที่ไม่มากและไม่ยืดเยื้อไปเวลาหลายปีก็จะไม่ทำให้เกิดโรคที่กล่าวมา


 
ดร.ปัณฑ์ ปานถาวร