คุณสมบัติการต้านทานต่อการขัดสีที่ดีขึ้นของคอนกรีตที่ผสมเส้นใยสังเคราะห์นั้น เนื่องจากอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ (W/C) ปริเวณผิวหน้าของคอนกรีตจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณน้ำที่เยิ้มขึ้นมาจากเนื้อคอนกรีตสด การผสมเส้นใยสังเคราะห์จะช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของคอนกรีตสดทำให้การเยิ้มเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั่วผิวหน้าของคอนกรีต
เส้นใยสังเคราะห์ช่วยในการเสริมแรงได้อย่างไร
เส้นใยสังเคราะห์บางประเภทสามารถใช้เพื่อทดแทนเหล็กเสริมรับการแตกร้าวเนื่องจากอุณหภูมิได้ แต่ควรได้รับการยืนยันจากผู้ผลิต การกระจายตัวของเส้นใยสังเคราะห์จะต้องมีความสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถกระจายแรงได้อย่างทั่วถึง
การประยุกต์การใช้งานที่เหมาะสม
- เพื่อลดรอยแตกร้าวเนื่องจากการแตกร้าวแบบพลาสติก
- เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการออกแบบเพื่อทดแทนเหล็กเสริมรับการแตกร้าวเนื่องจากอุณหภูมิ (Wire Mesh)
- เพิ่มการต้านทานต่อการแตกละเอียด, การขัดสีและแรงกระแทกให้กับคอนกรีต
- เพิ่มคุณสมบัติในการยึดเกาะตัวให้กับคอนกรีตที่ต้องเทในที่ลาดชันสูง อาทิเช่น Shotcrete หรืองาน Slipform
- ลดรอยแตกร้าวที่เกิดจากการทรุดตัวของคอนกรีตสด
- เพิ่มคุณสมบัติในการลดการซึมผ่านของน้ำให้ต่ำลง
- ใช้ในการออกแบบพื้นคอนกรีตที่ไม่ต้องการให้มีธาตุโลหะ (Nonmetallic)
- เป็นวัสดุผสมคอนกรีตที่สามารถทนทานต่อด่างและสารเคมีได้ดีพอๆ กัน
การประยุกต์การใช้งานที่ไม่เหมาะสม
- ออกแบบเพื่อควบคุมรอยแตกร้าวจากการรับแรงกระทำภายนอก
- ใช้เพื่อเพิ่มกำลังอัดคอนกรีตให้สูงขึ้น
- ทดแทนเหล็กเสริมในคอนกรีตเพื่อรับแรงดัด หรือทดแทนการเสริมเหล็กในโครงสร้าง
- ลดความหนาของพื้นคอนกรีตที่วางบนดินบดอัด
- ขจัดหรือลดการเกิดการโก่งตัว (Curling) หรือการคืบตัว (Creep) ของคอนกรีต
- ใช้เพิ่มระยะรอยต่อจากที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการออกแบบรอยต่อของ ACI หรือ PCA
- เป็นเหตุอ้างในการลดขนาดของเสาที่รองรับ
- ลดความหนาของคอนกรีตที่ใช้เททับหน้าแบบยึดติดกับผิวเดิม (Bonded) และไม่ยึดติดกับผิวเดิม (Unbonded)