การวิเคราะห์สาเหตุการแตกร้าว
1. จากวิธีการทำงานที่ไม่ถูกต้อง
เนื่องจากโครงสร้างเป็นพื้นกว้าง จึงต้องมีการทำรอยต่อทั้ง
Contraction Joint และ Isolation Joint เพื่อควบคุมให้รอยแตกร้าวอันเนื่องมาจากการหดตัวของคอนกรีตอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดไว้ Contraction Joint จะต้องกำหนดเป็นระยะๆ ทั้งแนวยาวและแนวขวาง การทำ Contraction Joint โดย
วิธีตัดด้วยเลื่อย (saw joint) จะต้องทำทันทีที่คอนกรีตแข็งตัว โดยให้ความลึกของร่องประมาณ ¼ ของความหนาของแผ่น
ส่วน Temperature Reinforcement ซึ่งเป็นเหล็กเสริมกันแตกร้าวคอนกรีตจากอุณหภูมิให้วางที่ตำแหน่ง 5 ซม. หรือ 1/3 ของความหนาพื้นจากผิวบนของพื้น (ให้เลือกใช้ค่าที่น้อยกว่า)
จากการเจาะตัวอย่างคอนกรีตจากหน้างาน พบว่า เหล็กเสริมกันแตกร้าวจากอุณหภูมิ อยู่ต่ำจากผิวบนประมาณ 6-9 ซม. จึงไม่ได้ช่วยในการลดการแตกร้าวของพื้นคอนกรีตอันเนื่องมาจากความร้อนและการหดตัว
2. จากคุณภาพของคอนกรีต
เนื่องจากผิวคอนกรีตมีสีขาวซีดแสดงว่ามีการเยิ้มของน้ำที่ผิวหน้าคอนกรีตมาก จากการสอบถามหน้างานพบว่าขณะเทคอนกรีตมีการเติมน้ำเพื่อให้คอนกรีตเหลว
เมื่อทำ
การเจาะคอนกรีต (Core Test) มาทดสอบพบว่าจากก้อนตัวอย่าง 3 ก้อน กำลังอัดคอนกรีตมีค่า 195.5, 164.8 และ 209.6 โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 189.9 ksc. ซึ่งผ่านเกณฑ์ของ ACI ที่ระดับ 85%( 85% ของกำลังอัดรับรองที่ 180 ksc. = 153.0 ksc. )
การที่เติมน้ำทำให้คอนกรีตเกิดการหดตัวแบบแห้งสูง หลังจากทิ้งไว้และน้ำในคอนกรีตแห้งไปเรื่อยๆ นอกจากนี้โครงสร้างที่เป็นพื้น อาจจะมีโอกาสเกิดปัญหาผิวหน้าร่อน เป็นฝุ่นหลังจากเปิดใช้งานมีค่อนข้างสูงอีกด้วย
บุญรอด คุปติทัฬหิ
อภินันท์ บัณฑิตนุกูล