อยากทราบว่าหินที่มีดินเคลือบผิวหน้าอยู่มากและทรายที่มี Clay ผสมอยู่มาก ในการผสมคอนกรีตจะส่งผลกระทบทำให้คอนกรีตเป็นอย่างไรบ้าง

หินที่มีดินเคลือบผิวหน้า

กรณีที่ดินเมื่อโดนน้ำแล้วสามารถถูกชะล้างจากผิวหน้าหินได้

    จะส่งผลกระทบต่อกำลังอัดคอนกรีต ทำให้กำลังอัดคอนกรีตลดลง เนื่องจากดินที่ปะปนอยู่ทำให้คอนกรีตต้องใช้น้ำมากขึ้น เพื่อให้มีค่ายุบตัวที่เหลวพอที่จะทำงานได้ ทำให้ค่า w/c สูงขึ้นนั่นหมายถึงกำลังอัดคอนกรีตก็จะลดลงตามไปด้วย

กรณีดินยังยึดติดอยู่กับหินแม้นจะโดนน้ำ
    นอกจากกำลังอัดคอนกรีตจะลดลงตามกรณีข้างต้นแล้ว ยังมีผลให้การยึดเกาะของซิเมนต์เพสต์กับหินลดลง (Bonding Strength) อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้กำลังอัดของคอนกรีตลดลงเช่นกัน

 

หินที่มีดินเคลือบผิวหน้า
 
ทรายที่มีดินเหนียว (Clay) ผสมอยู่

นอกจากกำลังอัดคอนกรีตที่ลดลงแล้ว ยังมีผลกระทบอื่นๆ ได้แก่
- ระยะเวลาการก่อตัวของคอนกรีต ซึ่งอาจจะช้ากว่าปกติ ถ้าดินมีสารอินทรีย์เจือปนมาด้วย
- การแตกร้าวในระยะยาวของคอนกรีตเฉพาะจุด (บริเวณ) อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าคอนกรีตสัมผัสความชื้นและก้อนดินซึ่งปะปนในคอนกรีตดูดน้ำ ทำให้ขยายตัวและดันให้เกิดการแตกร้าวหรือคอนกรีตหลุดร่อนเฉพาะจุดได้


ทรายที่มี Clay ผสมอยู่

    ผลกระทบต่อคุณภาพคอนกรีต คือ Clay หรือดินเหนียวจะไปเคลือบผิวของมวลรวมทำให้ลดแรงยึดเหนี่ยวระหว่างซีเมนต์เพสต์กับมวลรวม ถ้ามีปริมาณมากเกินไป จะต้องการปริมาณน้ำมากขึ้น ทำให้คอนกรีตที่ได้จะมีการหดตัว (Shrinkage) สูงและจะเกิดรอยร้าวเมื่อคอนกรีตแข็งตัว และทำให้กำลังอัด (Strength) และความทนทาน (Durability) ของคอนกรีตลดลง


บุญรอด คุปติทัฬหิ