ตอบ
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวถึงพฤติกรรมของคอนกรีตกับเหล็กเสริมก่อนนะครับ คอนกรีตมีกำลังต้านทานแรงดึงต่ำมาก เฉลี่ยประมาณ 10% ของกำลังต้านทานแรงอัดเท่านั้น นั่นคือคอนกรีตมีคุณสมบัติเปราะง่ายเมื่อรับแรงดึง ดังนั้นหากนำคอนกรีตอย่างเดียวมาใช้เป็นส่วนโครงสร้างก็จะรับน้ำหนักได้ไม่มากนัก คอนกรีตจะแตกร้าวเสียก่อนเนื่องจากคอนกรีตไม่สามารถรับแรงดึงได้สูงนั่นเอง
แต่โดยเหตุที่เหล็กเสริมเป็นวัสดุที่สามารถต้านทานต่อแรงดึงและแรงอัดได้ดีเท่ากัน และพบว่าเหล็กเสริมมีค่าสัมประสิทธิ์ของการยีดหดตัวเท่าๆ กันกับของคอนกรีต ทำให้ไม่เกิดปัญหาเมื่อคอนกรีตมีการยืดตัว ดังนั้นการนำเหล็กเส้นหรือเหล็กตะแกรงมาใช้ร่วมกับคอนกรีตโดยหล่ออยู่ในเนื้อคอนกรีตในลักษณะที่กำหนดให้คอนกรีตทำหน้าที่รับแรงอัด และเหล็กเสริมทำหน้าที่รับแรงดึงจึงได้ผลดี สามารถลดขนาดและน้ำหนักของส่วนโครงสร้างลงได้มาก การใช้เหล็กเสริมร่วมกับคอนกรีตในลักษณะดังกล่าว เรียกว่า คอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete) มีหน่วยน้ำหนักประมาณ 2400 กก./ลบ.ม.
อนึ่งเมื่อเหล็กเสริมมีคอนกรีตห่อหุ้มจะช่วยให้เหล็กเสริมนั้นทนทานต่อเพลิงไหม้และการเป็นสนิมผุกร่อนได้ดี ทำให้เหล็กเสริมมีกำลังรับแรงดึงได้เต็มที่ ดังนั้นคอนกรีตเสริมเหล็กจึงมีกำลังต้านทานแรงกระทำต่างๆ ได้ดีกว่าคอนกรีตล้วน (Plain Concrete) เพียงอย่างเดียว (ศ.ดร.วินิต ช่อวิเชียร : การออกแบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กโดยวิธีกำลัง)
|